วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

เข้าพรรษา เพิ่มเติมบุญให้ตนเอง







พรรษา หรือ วษา แปลว่า ฝน
เข้าพรรษา แปลว่า เข้าหน้าฝน



ประวัติวันเข้าพรรษา


ความเป็นมาของวันเข้าพรรษา

ประวัติความเป็นมาของการเข้าพรรษา  ในยุคต้นพุทธกาลยังไม่มีการเข้าพรรษา  ตลอดทั้งปี เมื่อพระภิกษุมีความประสงค์ว่า ท่านควรจะไปเทศน์โปรดญาติโยมที่ไหนได้ พอท่านมีเวลาท่านก็จะไป หรือท่านเห็นว่าที่ไหนเงียบสงัดดีเหมาะในการที่จะไปบำเพ็ญสมาธิภาวนาท่านก็จะไป  สมัยก่อนส่วนมากสถานที่เหมาะแก่การประพฤติปฏิบัติธรรมก็จะอยู่ในเขตที่เป็นป่าเป็นเขา ห่างไกลออกไปจากตัวเมือง  ต้องเดินผ่าน ท้องไร่ท้องนา  ข้าวกล้าที่เพิ่งหว่านไปในนา มันเพิ่งจะงอกออกมาใหม่ๆ บางทีก็ดูเหมือนหญ้า พระภิกษุท่านเดินผ่านไปนึกว่าเป็นดงหญ้า จึงเดินเหยียบย่ำข้าวกล้าของชาวบ้านไปเสีย ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนจึงพากันมาฟ้องพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า พระภิกษุไปย่ำข้าวที่พวกเขาปลูกเอาไว้ นกกาในช่วงฤดูฝนยังอยู่กับรัง ทำไมพระภิกษุจึงไม่พักบ้าง


                                      


พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงกำหนดว่า ตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 จนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 เป็นช่วงวันเข้าพรรษา 

สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกำหนดให้พระภิกษุอยู่กับที่ในช่วงเข้าพรรษา พระใหม่ก็จะได้ศึกษาหรือรับการถ่ายทอดธรรมะจากพระเก่า ส่วนพระเก่านอกจากทำหน้าที่เป็นครู สอนพระใหม่แล้วท่านยังกำหนดแผนการว่า เมื่อออกพรรษาแล้วควรจะเดินทางไปโปรดที่ไหน, วางแผนปรับปรุงหลักสูตรวิธีการเทศน์,การสอน,การอบรมให้เหมาะกับท้องถิ่น ให้เหมาะกับสภาพสังคมที่เปลี่ยนไปเป็นต้น ดังนั้น การเข้าพรรษา จึงเป็นการดีทั้งชาวบ้าน ดีทั้งพระเก่า พระใหม่ ไปในตัว อย่างที่กล่าวมาแล้ว จะเห็นว่าในฤดูเข้าพรรษานี้ ชาวไทยนิยมบวชกัน ไม่ว่าจะบวชชั่วคราวเพียงช่วงเข้าพรรษาก็ตาม หรือจะบวชระยะยาวก็ตาม   พูดง่ายๆว่า “ฤดูเข้าพรรษาจึงเป็นฤดูที่ผู้ปกครองส่งบุตรหลานเข้ามาบวชในร่มเงาพระพุทธศาสนา “ฤดูเข้าพรรษานี้ ที่แท้

พิธีอุปสมบทเทศกาลเข้าพรรษา


แล้วเป็น Moral Training Camp (ค่ายฝึกอบรมคุณธรรม) ของพระภิกษุนั่นเอง” กิจวัตรอื่นใดของพระภิกษุในช่วงเข้าพรรษา ค้นคว้าพระไตรปิฎกเป็นหลัก เสร็จจากการค้นคว้าก็ไปนั่งสมาธิภาวนา ซึ่งเป็นเรื่องของการค้นคว้าภายใน หรือเรียกว่า “พระไตรปิฎกในตัว” พระไตรปิฎกนอกตัวก็อยู่เป็นเล่มๆ แต่การค้นคว้าพระไตรปิฎกในตัว คือ “การทำสมาธิภาวนา”

คณะสงฆ์ที่บวชเข้าพรรษาร่วมปฏิบัติธรรมกลั่นจิตให้ใสใส


พระใหม่มาอยู่ในวัดกันพร้อมหน้าพร้อมตา โยมพ่อ โยมแม่ ญาติพี่น้อง พรรคพวกเพื่อนฝูงของพระใหม่ ต่างก็จะมาร่วมทำบุญที่วัดเพื่อมาพบพระลูก, พระหลาน, พระเพื่อน ถึงแม้ว่าพระใหม่ยังเทศน์ไม่เป็น เพราะเพิ่งจะบวช แต่เมื่อมาแล้วก็ได้พบพระครูบาอาจารย์ พระผู้ใหญ่ บรรดาญาติโยมเหล่านี้จึงมีโอกาสฟังเทศน์จากพระผู้ใหญ่ จึงกลายเป็นฤดูแห่งการศึกษาธรรมะไปด้วยในตัว ทั้งของพระ ทั้งของญาติโยม นี้คือเรื่องราวของการเข้าพรรษาในยุคปัจจุบัน

พุทธบริษัท4ร่วมปฏิบัติกิจในวันเข้าพรรษา



ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้าพรรษา

การเข้าพรรษาของพระภิกษุ
การเข้าพรรษาตามพระวินัย มี 2 ประเภท กล่าวคือ
ปุริมพรรษา คือ การเข้าพรรษาแรก เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี (สำหรับในปีอธิกมาส หมายถึง ปีที่มีเดือน 8 สองหน จะเริ่มในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 หลัง) จนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ภายหลังจากออกพรรษาแล้ว พระภิกษุที่อยู่จำพรรษาครบ 3 เดือน จะได้อานิสงส์กฐิน มีสิทธิที่จะรับกฐิน ซึ่งมีช่วงเวลาเพียง 1 เดือน (นับตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12)

ปัจฉิมพรรษา คือ การเข้าพรรษาหลัง ใช้สำหรับกรณีที่พระภิกษุต้องเดินทางไกล หรือมีเหตุสุดวิสัย ทำให้กลับมาเข้าพรรษาแรก (ปุริมพรรษา) ในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ไม่ทัน ต้องรอไปเข้าพรรษาหลัง คือ วันแรม 1 ค่ำ เดือน 9 และจะไปออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ซึ่งพระภิกษุที่เข้าปัจฉิมพรรษาไม่ได้รับอานิสงส์กฐิน เนื่องจากช่วงเวลากฐินหมดไปแล้ว แต่จะได้พรรษาเช่นเดียวกับพระภิกษุที่เข้าปุริมพรรษา

                                                 

เรียนเชิญชาวพุทธทุกท่านส่งบุตรหลานเข้ามาศึกษาธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยการบวชสามเณร เพื่อศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งภาคปริยัติและปฏิบัติ เพื่อเป็นทางมาแห่งบุญ

ส่วนฆราวาสเชื่อว่าหลายๆท่านคงจะได้วางแผนไว้ในใจแล้วว่า เข้าพรรษาปีนี้ จะทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา อย่างไรดี อย่าให้กาลเวลาแห่งการเข้าพรรษาล่วงเลยไปเปล่าๆ
มาทำทานให้มากขึ้น รักษาศีลให้มากขึ้น และทำภาวนาให้มากขึ้น ให้กาลเวลาแห่งการเข้าพรรษา เป็นกาลแห่งบุญ กาลแห่งการเข้าถึงธรรม.

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน วัณณุปถชาดก ว่า

  อกิลาสุโน วณฺณุปเถ ขณนฺตา        อุทงฺคเณ ตตฺถ ปปํ อวินฺท
     เอวํ มุนิ วีริยพลูปปนฺโน               อกิลาสุ วินฺเท หทยสฺส สนฺตึ.

        ชนทั้งหลายผู้ไม่เกียจคร้าน ขุดภาคพื้นที่ทางทราย ได้พบน้ำในทางทรายนั้น ณ ที่ลานกลางแจ้ง ฉันใด มุนี  ผู้ประกอบความเพียรและกำลังและเป็นผู้ไม่เกียจคร้าน   พึงได้ความสงบใจ ฉันนั้น.





#c- write

พุทธศาสนสุภาษิต มก.  วัณณุปถชาดก




4 ความคิดเห็น:

  1. เตรียมกาย เตรียมใจ ในการทำดี ลด ละ เลิกอบายมุขทั้งปวง ปฏิบัติตนให้เข้าถึงธรรม ในช่วงเข้าพรรษานี้กันนะคะ 🌺🙏🙏🙏🌺

    ตอบลบ
  2. เข้าพรรษาเรียนเชิญ ทุกท่านปวารณาว่าจะทำความดีอะไรบ้างในช่วงเข้าพรรษา ประกาศให้มนุษย์และเทวดาแซ่ซร้องสาธุการกันนะคะ สาธุค่ะ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ28 กรกฎาคม 2561 เวลา 04:50

    สาธุค่ะ ^_^

    ตอบลบ